นโยบายความเป็นส่วนตัว

ประกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร

เรื่อง นโยบาย มาตรการและวิธีดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อให้การดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสภามหาวิทยาลัย สภาวิชาการ ผู้บริหาร บุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุน นักศึกษา นักเรียน ศิษย์เก่า และบุคคลทั่วไปซึ่งใช้บริการ ติดต่อ หรือ เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงาน ตามมาตรการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลความมั่นคงปลอดภัย เป็นไปตาม ภารกิจและมิให้มีการใช้งานนอกเหนือวัตถุประสงค์การใช้งานของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ตลอดจนการคุ้มครองมีให้มีการนำข้อมูลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคล พ.ศ. 2562 จึงกำหนดแนวนโยบาย มาตรการและวิธีดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 และ มติคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ในการประชุมครั้งที่ 6/2565 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2565 มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครจึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เรื่อง นโยบาย มาตรการและวิธีดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”

ข้อ 2 ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับนับถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป

ข้อ 3 ในประกาศนี้

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า มหาวิทยาลัยและหน่วยงาน

“มหาวิทยาลัย” หมายความว่า

มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร

“หน่วยงาน” หมายความว่า

สำนักงานอธิการบดี คณะ วิทยาลัย และ

หมายความรวมถึง สถาบัน สำนัก กอง หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะหรือกอง

“ผู้ใช้บริการ” หมายความว่า สภามหาวิทยาลัย สภาวิชาการ ผู้บริหาร บุคลากร สายวิชาการและสายสนับสนุน นักศึกษา นักเรียน ศิษย์เก่า และบุคคลทั่วไปซึ่งใช้บริการ ติดต่อ หรือเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงาน

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

ข้อ 4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย จะต้องเป็นไป เพื่อการดำเนินงานตามหน้าที่และอำนาจของมหาวิทยาลัยเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามมาตรา 7 แห่ง พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 อันได้แก่ การพัฒนาท้องถิ่นที่เสริมสร้างพลังปัญญาของ แผ่นดิน ฟื้นฟูพลังการเรียนรู้ เชิดชูภูมิปัญญาของท้องถิ่น สร้างสรรค์ศิลปวิทยา เพื่อความเจริญก้าวหน้าอย่าง มั่นคงและยั่งยืนของปวงชน มีส่วนร่วมในการจัดการ การบำรุงรักษา การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์ให้การศึกษา ส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการสอน วิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคมปรับปรุง ถ่ายทอด และพัฒนาเทคโนโลยี ทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม ผลิตครูและส่งเสริมวิทยฐานะครู

ข้อ 5 มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงาน จะกระทำการรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนหรือในขณะนั้น เว้นแต่จะมีบทบัญญัติแห่งกฎหมาย บัญญัติให้กระทำได้

การขอความยินยอมต้องทำโดยชัดแจ้งเป็นหนังสือหรือทำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่โดยสภาพไม่อาจขอความยินยอมด้วยวิธีการได้ ในการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานต้องแจ้ง วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปด้วย และการขอความยินยอมนั้นต้องแยกส่วนออกจากข้อความอื่นอย่างชัดเจน มีแบบหรือข้อความที่เข้าถึงได้ง่ายและเข้าใจได้ รวมทั้งใช้ภาษา ที่อ่านง่ายและไม่เป็นการหลอกลวงหรือทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใจผิดในวัตถุประสงค์ดังกล่าว

ในการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานต้องคำนึงอย่างถึงที่สุดในความเป็นอิสระของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการให้ความยินยอม ทั้งนี้ ในการเข้าทำสัญญาซึ่งรวมถึงการให้บริการใด ๆ ต้องไม่มีเงื่อนไขในการให้ความยินยอมเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นหรือเกี่ยวข้องสำหรับการเข้าทำสัญญาซึ่งรวมถึงการให้บริการนั้น ๆ

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะถอนความยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้โดยจะต้องถอนความยินยอมได้ง่าย เช่นเดียวกับการให้ความยินยอม เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ

ในกรณีที่การถอนความยินยอมส่งผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในเรื่องใด มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมนั้น

การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนอกจากที่กำหนดไว้ตามประกาศนี้ไม่มีผลผูกพัน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และไม่ทำให้มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานสามารถทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้

ข้อ 6 ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรสหรือไม่มีฐานะเสมือนดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

(1) ในกรณีที่การให้ความยินยอมของผู้เยาว์ไม่ใช่การใด ๆ ซึ่งผู้เยาว์อาจให้ความยินยอมโดยลำพังได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ด้วย

(2) ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคนไร้ความสามารถ การขอความยินยอมจากเจ้าของ

ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้ขอความยินยอมจากผู้อนุบาลที่มีอำนาจกระทำการแทนคนไร้ความสามารถ

(3) ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ การขอความยินยอมจาก เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ให้ขอความยินยอมจากผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ

ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับการถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การร้องเรียนของเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคล และการอื่นใดตามประกาศนี้ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

ข้อ 7 หน่วยงานและมหาวิทยาลัยต้องทำการรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตาม วัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนหรือในขณะที่เก็บรวบรวม การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างไปจากวัตุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ตามวรรค หนึ่งจะกระทำมิได้ เว้นแต่

(1) ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่นั้นให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและได้รับความยินยอมก่อน เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยแล้ว

(2) บทบัญญัติแห่งกฎหมายให้กระทำได้

ข้อ 8 มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ ผู้ใช้บริการ ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ การใช้งาน

ข้อ 9 การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ให้มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานใช้วิธีการที่ ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับทราบถึงวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยแล้ว

ข้อ 10 มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานต้องดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลของผู้ใช้บริการมีความถูกต้อง สมบูรณ์ ชัดเจน และเป็นปัจจุบัน

ข้อ 11 ในกรณีที่มีการว่าจ้างหรือมอบหมายให้บุคคลภายนอกดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานต้องพิจารณาดำเนินการโดยใช้ความระมัดระวังและ มีมาตรการอย่างเหมาะสมในการกำกับดูแลและควบคุมการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ เจ้าของข้อมูล

ข้อ 12 เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะร้องขอเพื่อตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลของตน และสามารถ ร้องขอให้มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลให้ตรงตามความเป็นจริงได้ มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานต้องจัดให้มีช่องทางสะดวกในการติดต่อจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อตรวจสอบหรือร้องขอให้ปรับปรุงข้อมูลให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ

ข้อ 13 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้มหาวิทยาลัยหรือ หน่วยงานดำเนินการ ดังนี้

(1) มอบหมายหรือแต่งตั้งผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยในสังกัดหน่วยงานให้ทำหน้าที่ผู้ประสานงาน โดยตรงตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตาม ประกาศฉบับนี้ และแจ้งอธิการบดีเพื่อทราบ

ในกรณีที่ไม่มีการมอบหมายหรือแต่งตั้ง ผู้ประสานงาน ให้หัวหน้าหน่วยงานเป็นผู้ประสานงาน

(2) ทบทวนวิธีการและระบบงานการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานให้มีการปฏิบัติที่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่เป็น ตามประกาศนี้ ให้มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานดำเนินการปรับปรุงให้ถูกต้องตามกฎหมายและประกาศต่อไปและ แจ้งให้อธิการบดีทราบ

(3) กำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่งคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายหรือประกาศฉบับนี้กำหนด

จึงประกาศมาเพื่อทราบ และถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด

ประกาศ ณ วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2565

(รองศาสตราจารย์เปรื่อง กิจรัตน์ภร)

รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร